วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ShaoLin Temple กิจกรรมดีๆ เดินขึ้นเขาวัดเส้าหลิน

วันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๙
            เช้าวันนี้เดินทางจากเมือง Zhengzhou ไปวัดเส้าหลิน เมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน โดยรถยนต์ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๑ ชั่วโมงครั้ง  ซึ่งวัดเส้าหลินเป็นวัดทางพระพุทธศาสนานิกายมหายานที่มีความเก่าแก่อายุมากกว่า ๑,๕๐๐ ปี ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเทือกเขาซงซาน หนึ่งในจำนวนห้ายอดเขาอันศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวจีน















            เมื่อไปถึง ณ บริเวณรูปปั้นตั๊กม้อ บริเวณหน้าวัดเส้าหลิน  แล้วจะต้องขึ้นกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูเขาระยะทางประมาณ ๑ กิโลเมตร  เมื่อเดินสักระยะหนึ่งได้เห็นว่ามีจุดจำหน่ายภาพถ่ายที่ระลึก โดยเป็นการพิมพ์ภาพลงแท่งแก้วในรูปทรงต่างๆ เช่น กล่องสี่เหลี่ยม แผ่นวงกลม เป็นต้น ซึ่งสามารถมองทะลุภาพในมุมต่างๆ  โดยการพิมพ์ภาพดังกล่าวเป็นที่สนใจของท่านประธานสมชาย เหล่าสายเชื้อ หากว่านำนวัตกรรมดังกล่าวมาพิมพ์ภาพลงในวัสดุดังกล่าวให้ลูกค้าของโตโยต้าดีเยี่ยม น่าจะเกิดความประทับใจมากยิ่งขึ้น



            หลังจากนั้น เดินข้ามภูขาจำนวนประมาณ ๔ ลูก ใช้เวลาในการเดินทาง ๓ ชั่วโมงกับ ๒๕ นาทีโดยประมาณ และตอนเดินลงใช้เวลาประมาณ ๑ ชั่วโมง ๓๐ นาที (โดยเดินลงอีกเส้นทางหนึ่ง ซึ่งค่อนข้างจะชันมาก) ทั้งนี้ เมื่อใช้ APP S Health จากโทรศัพท์ Samsung ตรวจสอบเกี่ยวกับข้อมูลการเดินขึ้นและลงเขาดังกล่าวนั้น เป็นดังนี้  คือ จำนวนก้าวที่เดินประมาณ ๑๙,๐๐๐ ก้าว ใช้พลังงานไปประมาณ ๘๐๐ กิโลแคลอรี  (ซึ่งความเป็นจริงปริมาณการใช้พลังงานน่าจะมากกว่านี้เนื่องจากเป็นการเดินขึ้นภูเขาสูงทางลาดชัน แต่ APP น่าจะคำนวณจากเพียงจำนวนก้าวเดินที่น่าจะจำนวนน้อยกว่าความเป็นจริง)







ที่เห็นไกลๆ นั่นคือ คณะที่นำโดย
ท่านประธานสมชาย  เหล่าสายเชื้อ




ทางเดินขึ้นเขาวัดเส้าหลินสูงชันเป็นอย่างมาก 


ที่เห็นไกลๆในภาพ นั่นคือ จุดหมาย





ซึ่ง ณ จุดหมาย คือ สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานขององค์เทพเจ้า ๓ องค์ คือ องค์ที่คุ้มครองสวรรค์  องค์ที่คุ้มครองโลก และ องค์ที่คุ้มครองมนุษย์   ณ บริเวณดังกล่าวจะเป็นจุดที่สำคัญ ที่มีเรื่องเล่าต่อๆ กันมาว่า บริเวณ ที่ฝึกของ ๑๘ อรหันต์  โดยเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับ ๑๘ อรหันต์ เมื่อสำเร็จการศึกษาจะต้องยกกระถ่างธูปที่มีน้ำหนักกว่า ๗๐๐ ชั่ง หรือ ๒๗๐๐ กิโลกรัม ซึ่งเมื่ออุ้มกระถ่างธูปดังกล่าวได้ก็จะมีรอยติดที่แขนทั้งสองข้างไปตลอดชีวิต อันหมายถึงได้สำเร็จวิชาสุดยอดของวัดเส้าหลิน สามารถที่จะเป็นอาจารย์สอนผู้คนคนอื่นๆ ได้ ต่อไป

            เมื่อสมาชิกของกลุ่มโตโยต้าดีเยี่ยม (โดยการนำของท่านประธาน สมชาย เหล่าสายเชื้อ) มาถึงจุดบริเวณดังกล่าวได้ทำการบันทึกภาพประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นว่า แม้ไกลสูงเพียงใดขอเพียงมีใจที่แกร่งกล้าท้าทายเอาชนะใจตนเอง  อดทนเดินทางผ่านเขา ๔ ลูกใช้เวลากว่า ๓ ชั่วโมงครึ่งในการขึ้นมาเพื่อเป็นความจดจำที่ดี ณ บริเวณภูเขาที่เรียกว่า “วัดเส้าหลิน”  
            และเมื่อจะกลับขณะนั้นเวลาประมาณ ๑๗.๐๐ น. กำลังจะเดินกลับเส้นทางเดิมที่เดินขึ้นมา  ปรากฏว่าเวลาที่กระเช้าไฟฟ้าปิดทำการคือ ๑๗.๓๐ น. ทำให้ต้องเดินลงเขาอีกด้านหนึ่ง ซึ่งด้านลงเขาดังกล่าวมีความสูงชันเป็นอย่างมาก (แต่โชคดีที่ระยะทางสั้นกว่าเส้นทางที่เดินขึ้นมา) เมื่อเดินมาได้หนึ่งชั่วโมงกว่า กำลังจะถึงเป้าหมาย  (โดยขณะนั้น Mr Frank ตัวแทนของบริษัท Wo Long ได้ประสานให้รถยนต์มารอรับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว) มีผู้ชายวัยประมาณห้าสิบกว่า (ร่างกายแข็งแรง ไม่มีไขมันเลย) กำลังเดินสวนขึ้นมาพร้อมกับแบกท่อเหล็กขนาดความยาว ๖ เมตร จำนวน ๓ ท่อน (น้ำหนักน่าจะประมาณ ๖๐ กว่ากิโลกรัม หรือมากกว่า) เขาเดินขึ้นมาอย่างตั้งใจมีสติทุกขณะ และมีการสลับเหล็กดังกล่าวจากไหล่ซ้ายมาไหล่ขวาเป็นระยะ (แสดงว่าคงจะหนักมากพอสมควร) แสดงให้เห็นว่ามีการฝึกร่างกายมาเป็นอย่างดี รวมทั้งฝึกจิตใจให้อดทนในการแบกของหนักมาเป็นอย่างดีเช่นกัน  และ ในที่สุด คณะของโตโยต้าดีเยี่ยมก็เดินลงมาถึงจุดหมายด้วยความปลอดภัยกันอย่างทุกคน
                        ทั้งนี้ ในแต่ละวันจะมีผู้คนทั้งในละแวกดังกล่าวและต่างถิ่นมาเยี่ยมชมพร้อมขึ้นไปยังบริเวณเทพเจ้า ๓ องค์ แตะโดยส่วนมากเมื่อขึ้นไปแล้ว จะมีเพียงประมาณเพียงร้อยละ ๒๐ เท่านั้นที่จะไปถึงสถานที่ดังกล่าว  ซึ่งสำหรับคนที่สามารถเดินไปถึงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวนั้น แสดงให้เห็นว่าเป็นคนที่มีบุญ มีจิตใจที่เข้มแข็งอดทนอย่างแน่วแน่ว่าจะต้องเดินไปให้ถึงให้ได้  
                     สำหรับเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน จะมีโรงเรียนขนาดใหญ่  ๕ โรงเรียน (ซึ่งจำนวนนักเรียนประมาณ ๗ หมื่นคน จากโรงเรียนทั้งหมด)  ทั้งนี้โรงเรียนเหล่านี้จะสอนหลักสูตรของวัดเส้าหลินที่จะต้องมีการฝึกฝนร่างกายและจิตใจให้แข็งแกร่ง โดยเดือนหนึ่งจะต้องขึ้นไปยังบริเวณองค์เทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์อย่างน้อย ๒ ครั้ง และถ้าจบการศึกษานั้นจะต้องแบกสิ่งของหนัก (ตามที่หลักสูตรกำหนด) ขึ้นลงเขาให้ได้  ซึ่งนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเหล่านี้ประมาณร้อยละ ๘๐ จะรับราชการทหารตำรวจ  สำหรับโรงเรียนดังกล่าวจะเป็นลักษณะของโรงเรียนประจำกินนอน โดย ๑ เดือนจะอนุญาตให้ผู้ปกครองได้เข้าพบเพียง ๑ ครั้ง  และอนุญาตให้พูดคุยกันเพียง ๑ อึดใจเท่านั้น

            ข้อสังเกต
๑.     เมื่อสมัย ๑๕๐๐ ปีที่แล้ว  วัดเส้าหลินได้กำเนิดขึ้นนั้น แสดงให้เห็นถึงความแน่วแน่ในการที่ฝึกร่ายกายและจิตใจให้แข็งแรง ผ่านการเดินขึ้นเขาลงเขา ซึ่ง ณ สถานที่ดังกล่าวมีความสูงชัน อากาศเย็นและมีหิมะในฤดูหนาว รวมทั้งเรื่องน้ำ อาหารการกิน ที่ต้องให้อยู่รอดด้วยความแข็งแรงของทั้งสองสิ่ง คือ จิต และ ร่างกาย
๒.   เวลาผ่านไปหลายร้อยปีจนถึงปัจจุบันลูกหลานของเมืองดังกล่าวได้ใช้เทคโนโลยีมาส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว ทั้งการสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นอยู่ยอดเขา การสร้างทางเดินขึ้นอยู่เขา การสร้างสะพาน แสดงให้เห็นถึงความอุตสาหะในการที่อนุรักษ์สถานที่สำคัญในอดีตเพื่อให้ผู้คนสามารถเข้าถึง “วัดเส้าหลิน” ที่แท้จริง  โดยการเดินทางขึ้นเขาผ่านกระเช้าไฟฟ้า และการเดินทางผ่านเส้นทางที่สร้างขึ้นใหม่ ทำให้นักท่องเที่ยวได้ชมทัศนียภาพอันสวยงามของเทือกเขาของบริเวณวัดเส้าหลิน  ซึ่งเป็นสิ่งที่เรียกว่า “UNSEEN” อีกแห่งหนึ่งของประเทศจีนที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวสามารถที่จะทำเงินให้กับท้องถิ่นได้อย่างมาก เกิดการจ้างงานในด้านต่างๆ ทำให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจเป็นผลดีต่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน
๓.    การมีโรงเรียนหลักสูตรวัดเส้าหลินจำนวนมาก (นักเรียนจำนวนมาก) แสดงให้เห็นว่ายังมีผู้ปกครองที่ต้องการให้ลูกชายของตนมีการได้รับการฝึกฝนตนเองอย่างมีระเบียบวินัยอดทนเพื่อที่จะให้เติบใหญ่เป็นคนที่สามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
๔.    ทำให้ทราบว่าเมื่อจิตสั่งกำหนดเป้าหมายว่าจะต้องเดินไปถึงให้ได้ (จุดบริเวณองค์เทพเจ้าสามองค์) จิตย่อมจะสั่งร่างกายให้สามารถบรรลุเป้าหมายได้ในที่สุด

๕.    การขึ้นเขาลงเขา ทำให้ได้ตระหนักว่า ทุกอย่างมีขึ้นแล้วมีลง เป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง  





ขอขอบพระคุณท่านประธานสมชาย เหล่าสายเชื้อ 
ที่ให้การสนับสนุกิจกรรมดีๆ เดินขึ้นเขาวัดเส้าหลินในครั้งนี้ 

ขอขอบคุณตากล้องท่านนี้ที่เสียสละและทำให้ได้มีรูปภาพที่สวยงามประทับใจ 





******* ขึ้นเขาวัดเส้าหลิน *******

ขึ้นเขาวัดเส้าหลิน  
เยือนเมืองจีนถิ่นเก่าแก่
เขาสูงอย่างจริงแท้  
หากไม่แน่แย่ทันที

เขาชันภูผาสูง  
จิตใจมุ่งพุ่งชีวี
เส้าหลินมีของดี  
คนรู้ดีมีวิชา

เรื่องเล่ามีตำนาน  
ต่างสืบสานขานเรื่อยมา
เดินไกลจนเมื่อยล้า  
ใช้เวลามาต้องเดิน

ทางขึ้นวิวสวยงาม  
น่าติดตามอย่าหมางเมิน
ตั้งใจเดินเพลิดเพลิน  
เหนื่อยเหลือเกินเชิญลองไป

เดินเหนื่อยมากยิ่งนัก  
ต้องหยุดพักสักครู่ไว้
เป้าหมายทำให้ได้  
ยอดเขาไงใจต้องสู้

ฝึกฝนเดินขึ้นลง  
จิตมั่นคงจงเรียนรู้
เส้าหลินสิ่งน่าดู  
ขอเชิดชูคู่ฟ้าดิน

ใครเดินถึงยอดเขา  
เป็นเรื่องเล่าเราได้ยิน
ฝึกเกินเดินให้ชิน  
เรื่องฟ้าดินหินภูผา

เส้าหลินฝึกฝนจิต   
ให้ใกล้ชิดมิตรผู้มา
เคล็ดลับในวิชา  
สิ่งล้ำค่ามาต้องชม


ดินแดนสิ่งศักดิ์สิทธิ์  
เนรมิตได้เหมาะสม
มาเที่ยวคนนิยม  
อภิรมย์สมอุรา

แหล่งสอนเรื่องสติ  
สมาธิเคล็ดวิชา
เรียนรู้ดูศึกษา  
เมื่อได้มาพาสุขเอย

อจ.ตุ้ย ผู้บันทึก







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น